จุ่นเป็นเด็กที่มีนิสัยเรียบร้อยน่ารัก เขามักมีนิสัยที่ชอบตามใจผู้อื่นเสมอ เวลาที่จุ่นอยู่กับเพื่อน จุ่นก็มักจะตามใจเพื่อนตลอด ถ้าเพื่อนอยากเล่นไล่จับ จุ่นก็จะเล่นกับเพื่อน แม้ว่าตัวเองอยากจะเล่นซ่อนหาก็ตาม หรือเวลาที่จุ่นจะตัดสินใจอะไรบางอย่างก็จะลังเล และคอยฟังคนอื่นเสมอ
จุ่นเข้าใจว่า การที่เราคอยตามใจผู้อื่น จะทำให้ผู้อื่นรักเรา และการที่เราขัดใจคนอื่น จะทำให้คนอื่นไม่รักเรา แต่การกระทำเช่นนี้ ลึกๆแล้วกลับไม่ทำให้จุ่นมีความสุขเลย เขากลายเป็นเด็กที่ไม่มีความสุข เพราะไม่เคยได้ทำอะไรที่ตนเองชอบเลย พ่อแม่ก็สังเกตตรงนี้ได้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
จนวันหนึ่ง คุณตามาเยี่ยมจุ่นที่บ้าน เอาเสื้อไหมพรมถักอย่างดีมาให้ จุ่นชอบมาก แต่ก่อนที่จะให้ คุณตาบอกกับจุ่นว่า “ไหนเราลองเอาเสื้อไปให้ทุกคนดูก่อนนะ ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไรบ้าง” ว่าแล้วคุณตาก็เรียกทุกคนในครอบครัวมารวมกัน แล้วถามว่า คิดอย่างไรกับเสื้อตัวนี้
น้องสาวของจุ่นบอกว่า “หนูไม่ชอบไอ้ตรงลายกลมๆบนเสื้อเลยค่ะ”
พี่ชายของจุ่นบอกว่า “ผมว่า ลายสามเหลี่ยมด้านบนนี่ไม่เท่ห์เลยครับ”
พ่อของจุ่นบอกว่า “พ่อว่าชายเสื้อมันยาวรุ่มร่ามไปนะ”
ส่วนแม่ของจุ่นบอกว่า “แต่แม่ว่า คอมันแคบไป จุ่นจะใส่ไม่สบายนะลูก”
และยังไม่ทันที่จุ่นจะได้พูดอะไร คุณตาก็หยิบกรรไกรขึ้นมา ตัดผ้าส่วนที่มีลายวงกลม กับสามเหลี่ยมทิ้ง และตัดชายเสื้อให้สั้นลง และคว้านคอให้กว้างขึ้น
จุ่นตะลึงงันกับสิ่งที่คุณตาทำ และค่อยๆเอ่ยปากออกมาว่า “คุณตา ทำอะไรกับเสื้อครับ อย่างนี้มันไม่เป็นเสื้อแล้วนะ
คุณตายิ้ม ลูบหัวจุ่นอย่างเอ็นดูแล้วพูดขึ้นว่า “จุ่นเห็นไหมหลาน เสื้อตัวนี้ ทั้งที่ตา เอาความคิด ความชอบของทุกคนมาปฏิบัติตาม แต่ทำไมเสื้อมันออกมาเละเทะล่ะลูก การใช้ชีวิตก็เช่นกัน การที่เราเอาแต่เชื่อคนอื่น นำความคิด ความเห็นของคนอื่นๆมาใส่ใจ มาทำตามตลอดเวลา มันไม่ได้ ส่งผลดีเสมอไป และมันกลับจะส่งผลเสียด้วยซ้ำ สุดท้ายชีวิตเราก็จะเละเทะเหมือนเสื้อไหมพรมตัวนี้”
พูดจบคุณตา ก็หยิบเสื้อไหมพรมอีกตัวที่เหมือนกันออกมาจากถุง และมอบให้จุ่น “เสื้อตัวนี้ตานำมาสองตัว ตัวที่สองนี้จุ่นลองค่อยๆพยายาม รักษามันไว้ อย่าให้ใครมาตัดแต่งของโปรด ของรักเราจนมันไร้ค่าไปอีกนะลูก”
จุ่นยิ้ม ปาดน้ำตา และหลังจากนั้น จุ่นก็พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง มากขึ้น และมีชีวิตทีมีความสุขมากขึ้น